13 ตุลาคม, 2551

เนื่ยแหละน้าภาษาญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงภาษาญี่ปุ่นที่เคยเรียนมาน่ะหรอ เอ ถ้าจะถามว่าเป็นยังไงบ้าง ก็อยากจะบอกว่าสนุกดีอยู่นะเวลาเรียน แต่เวลาสอบดิทำไมทำไม มันฟังไม่ค่อยจะทันไม่เท่าไหร่ฟังไม่ค่อยจะออกด้วย 555 แต่โดยส่วนตัวแล้วก็ชอบเรียนนะภาษาญี่ปุ่น สนุกดี ตอนแรกที่เรียนก็ชอบเจ้าตัวอักษรกลมๆ น่ารักๆ นั่นแหละ อยากจะเขียนเป็นกะเค้าบ้าง หุหุ แต่พอมาเรียนจริงเจ้าตัวอักษรกลมๆ น่ารักๆ พวกนั้นทำเอามึนไป 10 ตลบ กว่าจะจำครบหมด เพราะมันดันไม่ได้มีแค่ 10 20 ตัวน่ะซิ ดันมีตั้ง 46 ตัว พอๆกับภาษาไทยเลย แถมยังผ่ามีตั้ง 2 แบบ แยกเป็นแบบถ้าจะเขียนคำญี่ปุ่นต้องใช้เจ้าฮิราคานะ แต่พอจะเขียนคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ก็ต้องใช้เจ้าคาตาคานะ เป็นไงหล่ะ มึนดีมั้ย ยังไม่พอเวลาที่เราจะเขียนจริงๆ เค้าดันใช้คันจิเขียนกันซะงั้น เจ้าตัวอักษรภาษาจีนแต่อ่านแบบญี่ปุ่นนั่นแหละ หึหึ นี่แหละมรสุมขั้นแรกในการเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเลย แต่พอผ่านมรสุมตรงนี้ไปได้ คราวนี้ก็จะสบายไปครึ่งทาง เพราะเราจะสามารถอ่านออกและเขียนได้ แต่ไม่สามารถฟังออกพูดได้ 555 เพราะไม่รู้ความหมายและหลักไวยกรณ์ของมันเหอๆ รู้สึกเหมือนไม่รู้อะไรเลยมากกว่ากะอีแค่อ่านออกเขียนได้มันจะไปทำไรได้ พูดก็ไม่ได้ ฟังก็ไม่ออก ไม่จริงๆ ถ้าเราไม่ท้อเรียนต่อไป การอ่านได้ของเราจะเป็นประโยชน์กับเราอย่างมาก จะทำให้เราอ่านคำศัพท์ออก อ่านประโยคที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เห็นมั้ยว่าแค่นี้ก็ทำให้เราสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นประโยคง่ายๆ หรือประโยคไหนก็ตามที่อยากพูดได้แล้วเพราะเราสามารถอ่านภาษาญี่ปุ่นออก เราสามารถอ่านประโยคที่มีคำแปลแล้วนำมาใช้พูดได้ ทำให้การเรียนภาษาญี่ปุ่นของเราง่ายขึ้นด้วย เห็นข้อดีของการอ่านออกแล้วใช่ม้า ถ้างั้นเรามาเรียนตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ  日本語をべんきょうします.

meaw

                                                                                        PR มะเหมี่ยว

ไม่มีความคิดเห็น: