ก่อนพ.ศ. 900 ภาษาญี่ปุ่นไม่มีระบบการเขียนเป็นของตนเอง หลังจากนั้น เริ่มปรับปรุงอักษรจีนมาใช้ คาดว่าผ่านมาทางเกาหลี ครั้งแรกภาษาญี่ปุ่นเขียนด้วยอักษรจีนโบราณ หรือรูปแบบผสมระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ตัวอย่างของรูปแบบผสมเช่นโกจิกิ (kojiki:บันทึกประวัติศาสตร์) เขียนเมื่อ พ.ศ. 1255 พวกเขาเริ่มใช้รูปแบบอักษรจีนเขียนภาษาญี่ปุ่น ในรูปอักษรพยางค์ใบไม้หมื่นใบ (man'yōgana)
เมื่อเวลาผ่านไป ระบบการเขียนเป็นแบบใช้อักษรจีนเขียนคำยืมจากภาษาจีน หรือคำใหภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายใกล้เคียงกัน รูปแบบอักษรจีนยังใช้แทนการออกเสียงในการเขียนไวยากรณ์ และต่อมากลายเป็นอักษรแทนพยางค์ 2 ชนิดคือ ฮิระงะนะ และคะตะคะนะ วรรณคดีญี่ปุ่นปรากฏขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 1600 เช่น เรื่องเล่าแห่งเคนจิ โดย มูราซากิ ชิกิบุ
ภาษาญี่ปุ่นสมัยใหม่เขียนด้วยรูปแบบผสมของฮิระงะนะ คะตะคะนะร่วมกับคันจิ หนังสือสมัยใหม่จะรวมโรมาจิ (อักษรโรมัน) ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานสำหรับการเขียนภาษาญี่ปุ่นด้วยอักษรโรมัน คำที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นเขียนด้วยอักษรของภาษานั้นหรือหรือสัญลักษณ์ที่เรียกคิโกะ (kigō )
อ่านกันแล้วอาจจะมีงงๆบ้างแต่ไม่เป็นไรนะคะจะสรุปให้ฟังว่า อักษรญี่ปุ่นจะดัดแปลงมาจากภาษาจีน ไม่ว่าจะเป็นตัวฮิระงานะ ( ひらがな ) คะตะคะนะ ( カタカナ) หรือว่าคันจิ ( 漢字 ) ตัวคันจิส่วนใหญ่นั้นจะเลียนแบบลักษณะของสิ่งต่างๆ เช่น 魚 อ่านว่า sakana แปลว่าปลา ซึ่งจะสังเกตเห็นว่า ส่วนบนเป็นหัวปลา ส่วนกลางเป็นตัวปลา ส่วนล่างเป็นหางปลา และยังมีอีกหลายคำเลยที่เลียนแบบลักษณะต่างๆ
เห็นไหมว่าภาษาญี่ปุ่นน่ะน่าเรียนแค่ไหน เราสามารถใช้เทคนิคตรงนี้เป็นการจำตัวคันจิก็ได้ ภาษาญี่ปุ่นดูเหมือนว่าอาจจะยากมาก แต่ว่าถ้าได้มาเรียนแล้วอยากบอหว่าสนุกมากๆ
พยายามดูนะคะ เพราะไม่มีใครเกิดมาแล้วเก่งทุกอย่างหรอก ทุกอย่างจะเก่งได้ต้องฝึกฝนบ่อยๆค่ะ พี่เองก็ไม่ได้เก่งอะไรเพราะพี่เองก็กำลังฝึกปรือภาษาญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน สู้ๆๆๆๆๆๆๆ がんばって......
Plely` ณ เจ เลิร์นนิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น